หนังแข่งรถ ในหมู่พวกเขา ภาพยนตร์ ภาพยนตร์ประเภทต่าง ๆ ของโลกภาพยนตร์ หนึ่งในประเภทที่กระตุ้นอะดรีนาลีน ภาพยนตร์แข่งรถเป็นเรื่องที่นองเลือดที่สุด ความสวยงามของรถแต่ละคัน เสียงเครื่องยนต์ เสียงเปลี่ยนเกียร์ ความสนุกสนานในการแข่งขันที่ดุเดือด บทประพันธ์มหากาพย์ของคนที่รักความเร็ว ปฏิเสธไม่ได้ว่าโลกของภาพยนตร์มักเต็มไปด้วยเรื่องราวของความเร็ว ส่วนใหญ่จะโดนใจคอหนังที่ชื่นชอบ ความดุดันในหัวใจของการแข่งขัน นอกจากความเร็วแล้ว ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจอื่นๆ ที่เชื่อมโยงอยู่ในภาพยนตร์เรื่องนี้ แน่นอน เชื่อหรือไม่ว่าไม่ใช่แค่หนังแข่งรถเท่านั้น เมื่อคุณนึกถึงภาพยนตร์เกี่ยวกับรถยนต์และรถแข่ง สิ่งแรกที่นึกถึงคือ Fast and Furious แต่สำหรับผู้เขียนเป็นคนหนึ่งที่ชอบดูหนัง ไม่ว่าจะเพื่อการพักผ่อนหรือสร้างแรงบันดาลใจ ยิ่งมีรถเข้ามาเกี่ยวข้องมากเท่าไหร่ก็ยิ่งน่าสนใจเท่านั้น ในช่วงเวลาหนึ่งพันปี ภาคโปรดของฉันใน The Fast คือภาค 3 “Tokyo Drift” ในสนามนี้ คุณจะได้เห็นรถสวยๆ การวิ่ง การแข่งจริง และการใช้งานจริงตามความเป็นไปได้ มากกว่าภาคอื่น ๆ มันเน้นเรื่องราวแฟนตาซีที่ครอบคลุมอาคารและให้ความรู้สึกแบบไซไฟมากกว่า
หนังแข่งรถ สุดมันนั่งไม่ติด
- TAXI
เรียกได้ว่าเป็นหนังแฟรนไชน์ภาคต่อยาวนานอีกเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว สำหรับ TAXI แท็กซี่ระห่ำระเบิด หนังแอ็คชั่นไล่ล่าสัญชาติฝรั่งเศส หนังว่าด้วยเรื่องราวของ แดเนียล เด็กส่งพิซซ่าฝีมือดีที่รักในความเร็วเป็นชีวิตจิตใจ และวันหนึ่งความฝันของเขาก็เป็นจริง เมื่อเขาได้รับใบอนุญาตให้สามารถขับแท็กซี่ได้ หลังจากนั้นเขาได้ก่อความวุ่นวายแก่ตำรวจจราจรโดยได้ใช้ความเร็วที่อยู่ในตัวของเขา ทำการฝ่าฝืนในการขับรถด้วยความเร็วสูงเกินกว่ากำหนด ทำให้ได้พบกับ เอมีเลี่ยน เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยื่นข้อเสนอให้เพื่อแลกเปลี่ยนกับการไม่ถูกยึดรถ นั่นคือช่วยเหลือตำรวจตามจับกุมแก๊งปล้นธนาคารชาวเยอรมันที่กวาดคลังของเมืองไปเรียบ แล้วหลบหนีไปด้วยรถความเร็วสูง โดยหนัง TAXI มีภาคต่อออกมาถึง 5 ภาคเลยทีเดียว เริ่มตั้งแต่ ภาค 1 ในปี 1998, ภาค 2 ในปี 2000, ภาค 3 ในปี 2003, ภาค 4 ในปี 2007, ภาค 5 ในปี 2018 และมีเวอร์ชั่นอเมริกันแยกออกมาในปี 2004 อีกด้วย - Fast and Furious
ผ่านมาเกือบ 20 ปีแล้วกับหนังแฟรนไชส์นักซิ่งแข่งรถสุดระห่ำอย่าง Fast and Furious ที่เร็ว ๆ นี้เรากำลังจะได้ดูภาค 9 และภาค 10 กันอย่างต่อเนื่องให้คอหนังที่ชื่นชอบความเร็วได้ติดตามกัน โดยเรื่องราวในภาคแรกของหนังแฟรนไชส์นี้ ไบรอัน โอคอนเนอร์ ตำรวจลอสแอนเจลิส ต้องปลอมตัวเข้าไปในกลุ่มของ โดมินิค โทเร็ทโต ยอดนักแข่งรถที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีโจรกรรม แต่เมื่อความจริงปรากฏ โอคอนเนอร์ จะเลือกระหว่างหน้าที่หรือมิตรภาพ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของแก๊งโจรกรรมด้วยความเร็วนั่นเอง แม้ว่าในภาคหลัง ๆ จะไปไกลเกินกว่าหนังที่ใช้ความเร็วด้วยรถเพียงอย่างเดียวแล้ว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเสน่ห์ของหนังเรื่องนี้ทำให้แฟน ๆ ตามดูกันอย่างเหนียวแน่นนั่นเอง หนังแข่งรถ - Gone In 60 Seconds
Gone In 60 Seconds 60 วิ รหัสโจรกรรมอันตราย บอกเล่าเรื่องราวของ แรนดอลล์ เมมฟิส เรนส์ นักโจรกรรมรถยนต์มือหนึ่งที่หันหลังให้กับโลกอาชญากรรม แต่ต้องหวนกลับมาอีกครั้งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และภารกิจนั้นคือการขโมยรถครั้งใหญ่จำนวน 50 คัน ใน 1 คืน เพื่อแลกกับชีวิตน้องชายของเขากับพวกมาเฟีย สำหรับเรื่องนี้คอหนังยุค 90 คงคุ้นเคยกันดีกับฉากไล่ล่าสุดมันที่ตื่นตาตื่นใจไม่น้อยหน้าหนังแข่งรถเรื่องไหน เพราะซิ่งผ่าเมืองกันแบบจัดเต็ม เมื่อรวมกับการโจรกรรมขั้นเทพและการเชือดเฉือนกันของตัวละครทำให้หนังเรื่องนี้ทั้งสนุก ตื่นเต้น เร้าใจ - Transporter
หนัง Transporter บอกเล่าเรื่องราวของ แฟรงค์ มาร์ติน อดีตเจ้าหน้าที่กองกำลังพิเศษ ที่มีอาชีพเป็นคนส่งของที่บางครั้งจะต้องเกี่ยวข้องกับความลึกลับและเสี่ยงอันตราย และเช่นเดียวกันกับสิ่งของล่าสุดที่เขาต้องส่งไปยังจุดหมาย เขากลับพบความผิดปกติ เมื่อพัสดุขยับเขยื้อนได้ เขาจึงละเมิดกฎของตัวเองด้วยการเปิดดูและพบว่าภายในมีสาวสวยซุกซ่อนไว้ ซึ่งนั่นเองที่นำไปสู่ความลับที่น่าตกใจ หนังเรื่องนี้แม้จะไม่ใช่หนังรถซิ่งโดยตรง แต่เป็นหนังแอ็คชั่นที่มีการไล่ล่าด้วยรถยนต์อย่างดุเดือดถึงใจ คอหนังที่ชื่นชอบความเร็วก็ไม่ควรพลาดเรื่องนี้ด้วยประการทั้งปวง โดย Transporter ออกฉายทั้งหมด 4 ภาค และถูกนำมารีบูตอีกครั้งในปี 2015 ในชื่อว่า The Transporter Refueled นั่นเอง หนังแข่งรถ - FORD VS FERRARI
สร้างจากเรื่องจริงในที่มาของรถรุ่นดัง Ford Mustang Shelby ว่าด้วยแบรนด์ Ford ในยุค 60’s ต้องการพิสูจน์ตัวเอง เพื่อเทียบรัศมีความแรงบนสนามในการแข่งขันที่ใหญ่ที่สุด Le Mans 24 ชั่วโมง กับแบรนด์ม้าลำพอง Ferrari ที่ครองชัยชนะในทุกๆ การแข่งขันใหญ่จนเป็นที่ยอมรับโดยกว้าง เดือดร้อนกลายเป็นเมกะโปรเจกต์ของทางผู้บริหาร Ford คัดหัวกะทิในมือและเค้นศักยภาพสร้างรถเพื่อมาเอาชนะ Ferrari ให้ได้ แต่เส้นทางก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะปัญหารอบด้านทั้งเรื่องวิศวกรรมและการเมืองในองค์กร ต่างผุดออกมาให้ตัวเอกต้องแก้ไข ปลายทางคำตอบของเรื่องราวนี้จะเป็นอย่างไร หากคุณอยากรู้ประวัติศาสตร์ที่มาของคำว่า Shelby ใน Ford Mustang แล้วละก็ ต้องไม่พลาดเรื่องนี้เลย - Death Race
หรือชื่อไทยว่า ซิ่ง สั่ง ตาย เรื่องนี้เป็นหนังแบบแข่งรถเลยละครับ แต่เป็นแข่งว่าใครจะรอดตายและเข้าเส้นชัยได้ แอคชั่นดุเดือด ยิงกันสนั่นหวั่นไหวเลยนะครับ เนื้อเรื่องคร่าวๆคือ ในเรือนจำแห่งหนึ่ง มีการจัดแข่งรถติดอาวุธ โดยให้นักโทษคดีร้ายแรงเป็นผู้ขับ โดยมีรางวัลคือถ้าชนะครบ 10 ครั้งจะได้รับการปล่อยตัว ทำให้ตัวเอกของเรื่อง เจเซ่น เอเมส มีชื่อรหัสว่า แฟรงค์เก้นสไตน์ ( เจสัน สเตธัม ) ชนะการแข่งมาแล้ว 9 ครั้ง เหลือเพียงครั้งเดียวเท่านั้นก็จะได้เป็นอิสระแล้ว แต่ทางพัสดีและผู้บริหารเรือนจำกลับไม่ยอมให้เขาชนะ เรื่องราวจะเป็นไปอย่างไร ลองไปหาดูได้เลยครับ หนังมี 3 ภาค ซึ่งเนื้อหาและตัวแสดงที่ผู้เขียนเล่าไป เป็นในส่วนของภาคแรกเท่านั้น ซึ่งเป็นภาคที่ผู้เขียนคิดว่าสนุกที่สุด ส่วนภาค 2 ก็เฉยๆ ภาค 3 และ 4 นี่ไม่พูดถึงดีกว่า หนังแข่งรถ